เกี่ยวกับโครงการ

โครงการส่งเสริมการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคาร ปีที่ 8

การไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบด้านระบบจำหน่ายไฟฟ้าในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ได้จัดทำ “โครงการส่งเสริมการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคาร หรือ MEA ENERGY AWARDS” ขึ้นในปี พ.ศ. 2555 โดยดำเนินการต่อเนื่องถึงปัจจุบันเป็นโครงการฯในปีที่ 8 เพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้เจ้าของอาคารเกิดแรงจูงใจในการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้แนวคิด "การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและคุณภาพอากาศได้มาตรฐาน" เพื่อมอบตราสัญลักษณ์ MEA ENERGY AWARDS ให้กับอาคาร โดยใช้เกณฑ์มาตรฐานด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (MEA Index) และด้านคุณภาพอากาศภายในอาคาร (IAQ) พร้อมสนับสนุนเงินลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคาร และยกย่องเชิดชูอาคารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ MEA ENERGY AWARDS เป็นต้นแบบอาคารประหยัดพลังงานที่ดีในระดับประเทศต่อไป

โครงการส่งเสริมการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคาร ปีที่ 8 (MEA ENERGY AWARDS 2025)

การไฟฟ้านครหลวง (MEA)

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.)

ตราสัญลักษณ์ MEA ENERGY AWARDS

“การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และคุณภาพอากาศได้มาตรฐาน”

จัดทำเกณฑ์ประเมินอาคารประหยัดพลังงาน โดยการประเมินดัชนีการใช้พลังงานในอาคาร เพื่อสร้างมาตรฐานการใช้พลังงานที่เหมาะสมสำหรับอาคาร 9 ประเภท โดยมอบตรา MEA ENERGY AWARDS ให้กับอาคารที่ผ่านเกณฑ์ ทั้ง 2 ด้านคือ ด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (MEA Index) และด้านคุณภาพอากาศภายในอาคาร (IAQ) เพื่อส่งเสริมเป็นอาคารประหยัดพลังงานของการไฟฟ้านครหลวง

  • ศึกษาและรวบรวมข้อมูลการใช้ไฟฟ้าในกลุ่มอาคารเป้าหมาย
  • ศึกษาจัดทำและทบทวนเกณฑ์ค่าดัชนีการใช้พลังงานไฟฟ้าในอาคาร (MEA Index : Management of Energy Achievement Index) และเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพอากาศภายในอาคาร (IAQ :Indoor Air Quality)
  • เพื่อประเมินการให้ตราสัญลักษณ์แสดงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคาร (MEA ENERGY AWARDS)
  • ศึกษาและจัดทำแนวทางวิธีการตรวจวัดและประเมินผลการประหยัด ต้นทุนค่าใช้จ่าย และปัญหาอุปสรรคของการดำเนินมาตรการอนุรักษ์พลังงานในระบบวิศวกรรมประกอบอาคาร เพื่อประเมินการสนับสนุนการลงทุนให้กับกลุ่มอาคารเป้าหมาย
  • ส่งเสริมการให้ความรู้ ให้คำแนะนำด้านการอนุรักษ์พลังงานและใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
  • สร้างจิตสำนึกให้ผู้ใช้อาคาร ได้ตระหนักถึงคุณค่าของการอนุรักษ์พลังงาน
  • ประชาสัมพันธ์ และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีอาคารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ พร้อมทั้งสนับสนุนให้ประชาชนเข้าใช้บริการอาคารที่ได้รับตราสัญลักษณ์
  • มอบรางวัลเพื่อยกย่องเชิดชูอาคารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ MEA ENERGY AWARDS ให้เป็นตัวอย่างที่ดีในการดำเนินการเพื่อการอนุรักษ์พลังงานและประหยัดพลังงานแก่อาคารอื่น ๆ

โรงพยาบาล, โรงแรม, โรงเรียน, มหาวิทยาลัย,ไฮเปอร์มาร์เก็ต, สำนักงาน, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, ศูนย์การค้า/ห้างสรรพสินค้า, ร้านค้าขนาดเล็ก/ร้านสะดวกซื้อ และร้านกาแฟ

มีนาคม 2568 ถึง มีนาคม 2569

รูปแบบ ตราสัญลักษณ์ MEA ENERGY AWARDS

  • รูปอาคาร : สื่อถึง การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีพลังงานไหลเวียนต่อเนื่องเชื่อมต่อเป็นอาคารที่มั่นคง

  • สีส้ม : สื่อถึง พลังงานและพลังความร่วมมือเป็นหนึ่งเดียวกัน
  • หลอดไฟ :สื่อถึง แสงแห่งความสำเร็จที่เริ่มต้นจากแนวคิดเล็กๆ พัฒนาเป็นผลประหยัดพลังงานรวมที่ยิ่งใหญ่
  • ใบไม้ : สื่อถึง คุณภาพอากาศในอาคารดี มีการใช้พลังงานเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  • MEA  ความหมายที่ 1 : สื่อถึง การไฟฟ้านครหลวง (Metropolitan Electricity Authority : MEA)
  • MEA ความหมายที่ 2 : สื่อถึง ดัชนีการใช้พลังงาน (Management of Energy Achievement Index : MEA Index)
  • ENERGY AWARDS : รางวัลอาคารประหยัดพลังงานมาตรฐานของ MEA
  • เครดิตผู้ออกแบบโดยฝ่ายสื่อสารองค์กร MEA 

ตราสัญลักษณ์
MEA ENERGY AWARDS

logo mea energy awards

แนวคิดสู่ความสำเร็จ

MEA ENERGY AWARDS
การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและคุณภาพอากาศได้มาตรฐาน

MEA ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เป็นที่ปรึกษาจัดทำเกณฑ์ประเมินอาคารมาตรฐาน MEA ENERGY AWARDS  มีวัตถุประสงค์ให้เจ้าของอาคารใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างเครือข่ายอาคารประหยัดพลังงาน  โดยจัดทำเกณฑ์ประเมินที่ไม่ซ้ำซ้อนกับเกณฑ์ที่มีใช้อยู่ในประเทศไทย และพัฒนาเกณฑ์ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีปัจจุบัน โดยใช้เกณฑ์ MEA Index (Management of Energy Achievement Index) เป็นตัวชี้วัด และด้านคุณภาพของอากาศภายในอาคาร (Indoor Air Quality : IAQ) ที่ส่งผลต่อสุขภาพและประสิทธิภาพการทำงานของผู้ใช้อาคารโดยตรง  ชูแนวคิด “การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและคุณภาพอากาศได้มาตรฐาน” โดยทั้ง 2 เงื่อนไข เป็นเกณฑ์ตัดสินในการพิจารณามอบตราสัญลักษณ์ MEA ENERGY AWARDS  ให้กับอาคารที่เข้าร่วมในโครงการ และรณรงค์ให้ประชาชนไว้วางใจเลือกใช้บริการอาคารที่ได้รับตรา MEA ENERGY AWARDS  ซึ่งเป็นอาคารประหยัดพลังงานมาตรฐานที่มีคุณภาพอากาศเหมาะสมกับผู้ใช้งาน

หลักเกณฑ์พิจารณา
ตราสัญลักษณ์ MEA ENERGY AWARDS ระดับ STANDARD

อาคารต้องผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ทั้ง 2 เงื่อนไข จึงจะได้รับตราสัญลักษณ์ MEA ENERGY AWARDS  ประกอบด้วย
เงื่อนไขด้านการใช้พลังงานไฟฟ้า (MEA Index) และเงื่อนไขด้านคุณภาพอากาศภายในอาคาร (IAQ)  
โดยเกณฑ์มาตรฐาน MEA Index สำหรับทุกประเภทอาคาร ต้องมีค่า MEA Index ไม่เกิน 1.00

เงื่อนไขด้านคุณภาพอากาศภายในอาคาร
IAQ : Indoor Air Quality

คุณภาพอากาศภายในอาคาร (IAQ :Indoor Air Quality ส่งผลต่อสภาวะความสบายรวมถึงด้านสุขภาพอนามัยและประสิทธิภาพการทำงานของผู้ใช้งานในอาคาร หากอาคารมีคุณภาพอากาศภายในอาคารที่ดีอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน จะส่งผลให้ผู้ใช้งานภายในอาคารมีคุณภาพชีวิตที่ดีตามไปด้วย ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยมีเกณฑ์ตรวจประเมินในเงื่อนไขด้านคุณภาพอากาศในอาคาร (IAQ) ของโครงการฯแบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก คือ การตรวจวัดเชิงพื้นที่ และการตรวจวัดเชิงเวลา ซึ่งมีพารามิเตอร์ที่จะถูกนำมาใช้พิจารณาเพื่อแสดงถึงคุณภาพของอากาศภายในอาคาร ประกอบด้วย 6 พารามิเตอร์ ดังนี้

สารมลพิษทางอากาศอันตรายภายในอาคาร

ค่าแนะนำ
  • สารฟอร์มาลดีไฮด์ (CH2O) < 0.1 ppm
  • คาร์บอนมอนออกไซด์ (CO) < 9 ppm
  • สารอินทรีย์ระเหยทั้งหมด (TVOC) < 1,000 ppb
  • ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ CO2 < 1100 ppm
  • PM 10 < 50 µg/m3
  • PM 2.5 < 35 µg/m3

เงื่อนไขด้านการใช้พลังงานไฟฟ้า
MEA Index : Management of Energy Achievement Index

ค่าดัชนีการใช้พลังงานสำหรับอาคารประหยัดพลังงาน โดยค่า MEA Index ได้ประเมินจากพลังงานไฟฟ้าที่อาคารใช้จริงต่อปีที่มาจากใบเสร็จค่าไฟฟ้าเทียบต่อพลังงานไฟฟ้าที่เหมาะสมของอาคารนั้นๆ โดยพลังงานไฟฟ้าที่เหมาะสมเป็นปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ควรจะเป็นของอาคารคำนวนจากสมการการใช้พลังงานพื้นฐาน ตามองค์ประกอบและอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพให้เป็นไปตามเทคโนโลยีที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน โดยมีการพิจารณาถึงผลของภาระโหลดของระบบปรับอากาศจากภายนอกอาคารและภายในอาคาร ระบบแสงสว่าง และอุปกรณ์ไฟฟ้า ทั้งนี้ค่าตัวแปรที่จำเป็นเพื่อใช้แทนค่าในสมการได้จากข้อมูลการใช้พลังงานของอาคารเป็นตัวชี้วัดคุณภาพการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ควรจะเป็นของอาคาร โดยอาคารที่มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดี จะต้องมีค่า MEA Index ไม่เกิน 1.00 หากมีค่า MEA Index เกิน 1.00 ถือว่าไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานของ MEA

อาคารกลุ่มเป้าหมาย

เพื่อส่งเสริมให้ตราสัญลักษณ์ MEA ENERGY AWARDS เป็นที่รู้จักแพร่หลายเพิ่มมากขึ้น โดยได้กำหนดกลุ่มประเภทอาคารเป้าหมายที่เปิดรับสมัคร รวม 10 ประเภทอาคาร ประกอบด้วย

ประโยชน์ที่อาคารได้รับในการเข้าร่วมโครงการ

  • สมัครเข้าร่วมโครงการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
  • ได้รับตรวจประเมิน MEA Index และ IAQ ตามเกณฑ์มาตรฐานโครงการ
  • ได้สิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมสัมมนาให้ความรู้ ศึกษาดูงาน และอื่นๆ
  • อาคารได้รับตราสัญลักษณ์ฯ ระดับ STANDARD มีสิทธิ์ขอรับตราระดับพรีเมียม
  • อาคารได้รับตราสัญลักษณ์ฯ ระดับ STANDARD มีสิทธิ์ขอรับเงินสนับสนุนฯ
  • รับประกาศเกียรติคุณ, โล่รางวัล, ป้าย X-Stand และตราสัญลักษณ์ฯ ติดตั้งประจำที่อาคาร
  • ผู้บริหารได้เข้าร่วม “พิธีประกาศรางวัลและมอบตราสัญลักษณ์ MEA ENERGY AWARDS”ประจำปี
  • ได้รับการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ผลงานอาคารผ่านสื่อต่างๆของโครงการ
  • ได้รับการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของอาคารและองค์กร
  • ได้รับการสนับสนุนให้ประชาชนเข้าใช้บริการในอาคารที่ได้รับตรา MEA ENERGY AWARDS

รางวัลตราสัญลักษณ์ MEA ENERGY AWARDS ระดับ PREMIUM

แนวคิดในการพิจารณามอบรางวัลตราสัญลักษณ์ MEA ENERGY AWARDS ระดับ PREMIUM ให้กับอาคารที่ผ่านเกณฑ์ประเมินมาตรฐานได้รับตราสัญลักษณ์ฯ ระดับ STANDARD มาแล้ว โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของโครงการฯ จะเข้าเยี่ยมพบผู้บริหารเพื่อประเมินให้คะแนนอาคารที่มีความโดดเด่นเป็นต้นแบบได้ในด้านการมีส่วนร่วมของผู้บริหารที่มีความใส่ใจอย่างจริงจัง มีการดำเนินมาตรการปรับปรุงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม มีผลประหยัดชัดเจนและดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาคารจะได้รับประโยชน์ทั้งในด้านองค์ความรู้ ความยั่งยืน และด้าน CSR องค์กร โดยรางวัลสูงสุดคือ ระดับ PLATINUM และ ระดับ GOLD ตามลำดับ มีหลักเกณฑ์พิจารณา 3 ด้าน ประกอบด้วย

  1. ด้านการมีส่วนร่วมและความใส่ใจของผู้บริหาร   40 คะแนน
  2. ด้านความยั่งยืนของการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม 35 คะแนน
  3. ด้านการปรับปรุงการใช้พลังงานและผลประหยัด 25 คะแนน

เกณฑ์พิจารณาตัดสิน
รางวัลตราสัญลักษณ์ MEA ENERGY AWARDS ระดับ PREMIUM

ระดับ PREMIUM รางวัล GOLD
อาคารที่ได้รับคะแนนรวมมากกว่าร้อยละ 70 ขึ้นไป

ระดับ PREMIUM รางวัล PLATINUM
อาคารที่ได้รับคะแนนรวมมากกว่าร้อยละ 80 ขึ้นไป

อาคารประเภทโรงพยาบาล

นิยาม : หมายถึง อาคารหลังเดียว หรือหลายอาคาร ที่มีพื้นที่ใช้สอยเพื่อการแพทย์ เพื่อการรักษาผู้ป่วย รวมถึงกิจกรรมสนับสนุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของพื้นที่ทั้งอาคาร (ไม่รวมพื้นที่จอดรถ)

  • มีจำนวนเตียงผู้ป่วย ไม่น้อยกว่า 90 เตียงขึ้นไป

อาคารประเภทโรงแรม

นิยาม : หมายถึง สถานที่พักที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในทางธุรกิจเพื่อให้บริการที่พักชั่วคราวสำหรับคนเดินทาง หรือบุคคลอื่นใดโดยมีค่าตอบแทน (อ้างอิงพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547 มาตรา 4) ทั้งนี้ ไม่รวมถึง

1) สถานที่พักที่ จัดตั้งขึ้นเพื่อให้บริการที่พักชั่วคราวซึ่งดำเนินการโดยส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือ หน่วยงานอื่นของรัฐหรือเพื่อการกุศล หรือการศึกษาทั้งนี้โดยมิใช่เป็นการหาผลกำไรหรือรายได้มาแบ่งปันกัน

2) สถานที่พักที่จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการที่พักอาศัย โดยคิดค่าบริการเป็นรายเดือนขึ้นไปเท่านั้น

3) สถานที่พักอื่นใดตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

4) โรงแรมเพื่อการพักผ่อน (รีสอร์ต) หมายถึง โรงแรมที่มักตั้งอยู่ต่างจังหวัด ในภูมิประเทศที่ดี ห้องพักมักจะแยกเป็นส่วนๆ เป็นบ้านหรือหลังคาเรือนแยกต่างหากในโรงแรมจะมีกิจกรรมต่างๆ เช่น การปั่นจักรยาน ขี่ม้า เดินป่า สปา เนื่องจากจุดประสงค์ของแขกที่เข้าพักคือการพักผ่อนเป็นหลักระยะเวลาเข้าพักจึงมีระยะเวลาในช่วง 5-7 วัน การบริการจะเป็นแบบสบายๆ เป็นกันเอง

  • เป็นโรงแรมที่จดทะเบียนขอจัดตั้งตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547
  • มีจำนวนห้องพัก ไม่น้อยกว่า 100 ห้อง
  • เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาวขึ้นไปตามมาตรฐานของสมาคมโรงแรมไทย (ไม่รวมถึง ประเภทโรงแรมเพื่อการพักผ่อน)

อาคารประเภทโรงเรียน

นิยาม :  หมายถึง สถานศึกษาที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, สำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชน, กรุงเทพมหานคร และองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ซึ่งมีที่ตั้งของโรงเรียนอยู่ในเขตพื้นที่ให้บริการของการไฟฟ้านครหลวง

  • เป็นโรงเรียนที่การสอนในระดับมัธยมศึกษาขึ้นไป

อาคารประเภทมหาวิทยาลัย

นิยาม : หมายถึง สถาบันอุดมศึกษาที่มีวัตถุประสงค์ให้การศึกษาในด้านวิชาการ และวิชาชีพชั้นสูงหลายสาขาวิชา หรือหลายกลุ่มสาขาวิชา เพื่อให้ประกาศนียบัตร อนุปริญญา ปริญญา และประกาศนียบัตรบัณฑิตแก่ผู้สำเร็จการศึกษา รวมทั้งดำเนินการวิจัย และให้บริการทางวิชาการแก่สังคม และทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรมของชาติ

  • ต้องส่งอาคารหรือพื้นที่ตัวแทนเพื่อเข้ารับการประเมินอย่างน้อย 3 พื้นที่จาก 4 พื้นที่ คือ 1) อาคารเรียนรวม 2) อาคารสำนักงาน/สำนักงานอธิการบดี  3) อาคารศูนย์คอมพิวเตอร์/สำนักคอมพิวเตอร์ และ 4) อาคารสำนักหอสมุด/หอสมุดกลาง
  • เป็นอาคารเดียว หรือหลายอาคารก็ได้ โดยในแต่ละอาคารหรือพื้นที่ตัวแทนต้องมีการใช้สอยพื้นที่เพื่อกิจกรรมนั้นๆ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของพื้นที่อาคารตัวแทนนั้นๆ
  • พื้นที่ใช้สอยรวมของอาคาร หรือพื้นที่ตัวแทนที่ส่งเข้าร่วม ต้องมีพื้นที่รวมกัน ไม่น้อยกว่า 10,000 ตารางเมตร
  • อาคาร หรือพื้นที่ตัวแทนที่ส่งเข้าร่วมต้องอยู่ภายใต้บ้านเลขที่เดียวกัน
  • ต้องสามารถระบุหน่วยการใช้ไฟฟ้าของอาคารหรือพื้นที่ตัวแทนที่ส่งเข้าร่วมโครงการได้ โดยข้อมูลนั้นต้องเชื่อถือได้

อาคารประเภทสำนักงาน

นิยาม หมายถึง อาคารหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของอาคารที่ใช้เป็นสำนักงานหรือที่ทำการที่มีพื้นที่ตั้งแต่ 300 ตารางเมตรขึ้นไป (อ้างอิงสำนักควบคุมและตรวจสอบอาคาร กรมโยธาธิการและผังเมือง)

  • อาคารสำนักงานที่ส่งเข้าร่วมโครงการได้ ต้องมีพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 2,000 ตารางเมตร (ไม่รวมพื้นที่จอดรถ)
  • เป็นอาคารที่มีพฤติกรรมการใช้สอยพื้นที่เป็นสำนักงาน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของพื้นที่ใช้สอยรวมของอาคารที่ส่งสมัครเข้าร่วมโครงการ (หมายถึง อาคารหลังเดียว หรือหลายอาคารก็ได้ โดยต้องสามารถระบุการใช้พลังงานไฟฟ้าของส่วนอาคารสำนักงานที่ส่งเข้าร่วมโครงการจากข้อมูลที่ชัดเจนและเชื่อถือได้)

อาคารประเภทไฮเปอร์มาร์เก็ต

นิยาม หมายถึง เป็นสถานประกอบการค้าปลีกขนาดใหญ่ที่มีการรวมกันของซูเปอร์มาร์เก็ตและห้างสรรพสินค้า ถือว่าเป็นร้านค้าแบบครบวงจรสำหรับทุกความต้องการของลูกค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ตโดยทั่วไปจะมีสินค้าทุกประเภทที่ต้องการใช้ในชีวิตประจำวัน

  • ไฮเปอร์มาร์เก็ต ต้องมีพื้นที่ที่ใช้เพื่อการค้าปลีก ค้าส่ง รวมถึงส่วนกิจกรรมสนับสนุน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของพื้นที่ทั้งอาคาร (ไม่รวมพื้นที่จอดรถ) และข้อมูลที่นำมาใช้ในการประเมินผลต้องเป็นข้อมูลของทั้งอาคารรวมทุกพื้นที่ใช้สอย

 

อาคารประเภท
ศูนย์การค้า/ห้างสรรพสินค้า

นิยาม : หมายถึง แหล่งรวมสินค้าเพื่อจำหน่าย มีร้านขายสินค้านานาชนิด มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้แก่ผู้มาซื้อสินค้า เช่น ที่จอดรถ ร้านอาหาร (ไม่รวมถึง Community Mall, Hypermarket)

  • ศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าที่สมัครเข้าร่วมต้องส่งอาคารเข้ารับการประเมินทั้งอาคาร ทั้งพื้นที่ส่วนกลางและพื้นที่ผู้เช่า
  • มีค่าไฟฟ้ารวม ไม่น้อยกว่า 6 ล้านบาทต่อปี

ประเภทอาคาร
ร้านค้าขนาดเล็ก/ร้านสะดวกซื้อ

นิยาม : หมายถึง ร้านค้าที่ขายสินค้าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน มีการเปิดให้บริการไม่น้อยกว่า 12 ชั่วโมงต่อวัน

  • มีเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าของ กฟน. ที่เป็นเฉพาะของร้าน (เลขมิเตอร์) และมีค่าไฟฟ้ารวมไม่น้อยกว่า 30,000 บาทต่อเดือน
  • มีขนาดของพื้นที่ขาย ระหว่าง 90-250 ตารางเมตร
  • จำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภค อาหารพร้อมรับประทาน และเปิดให้บริการไม่น้อยกว่า12 ชั่วโมงต่อวัน
  • เป็นร้านค้าขนาดเล็ก/ร้านสะดวกซื้อ ที่ตั้งอยู่ภายในตึกแถว หรือ อาคารพาณิชย์ หรือ แบบ Stand alone โดยมีผนังกั้นขอบเขตอย่างชัดเจน
  • ต้องมีระบบปรับอากาศเป็นของร้านเอง
  • ไม่มีพื้นที่ประกอบอาหาร (ครัว*) ภายในร้าน

หมายเหตุ : ครัว* หมายถึง พื้นที่ซึ่งจัดแบ่งไว้เพื่อใช้ประกอบอาหาร ปรุงอาหาร หุงต้ม ทำกับข้าว เพื่อทำให้วัตถุดิบสุก ด้วยวิธีต่างๆ เช่น หุง ต้ม ทอด นึ่ง ย่าง โดยอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือก๊าซหุงต้ม ทั้งนี้ ไม่นับรวม ไมโครเวฟ และกาต้มน้ำร้อน

ประเภทอาคารร้านกาแฟ

นิยาม : ร้านกาแฟ หมายถึง ร้านค้าที่ประกอบกิจการขายเครื่องดื่มประเภทกาแฟ เป็นหลัก และ/หรือ เครื่องดื่ม อื่น ๆ เช่น ชา ช็อคโกแลต เป็นต้น รวมถึงอาจมีการขายอาหาร และ/หรือผลิตภัณฑ์เบเกอรี่

  • มีเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า (เลขมิเตอร์) ของ กฟน. หรือ มีเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้าเป็นเฉพาะของร้านที่น่าเชื่อถือได้
  • เป็นร้านกาแฟ ที่ตั้งอยู่ภายในตึกแถว อาคารพาณิชย์ สถานีบริการน้ำมันหรือก๊าซ หรือ แบบ Stand alone โดยมีผนังกั้นขอบเขตอย่างชัดเจน
  • ต้องมีระบบปรับอากาศเป็นของร้านเอง
  • มีขนาดพื้นที่ปรับอากาศ ไม่น้อยกว่า 25 ตารางเมตร

ประเภทอาคารคอมมูนิตี้มอลล์

นิยาม : คอมมูนิตี้มอลล์ หมายถึง ศูนย์การค้าแบบเปิดที่ตั้งอยู่ในบริเวณแหล่งชุมชนที่พักอาศัย มีพื้นที่เปิดโล่งเป็นส่วนใหญ่ เป็นแหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง ซุปเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงความบันเทิง